ทำไมจึงมีอาการปวดประจำเดือน

อาการปวดประจำเดือนดูท่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับหลายๆ คน เพราะบางคนอาจทนกับอาการปวดนี้ไม่ได้ถึงกับต้องพึ่งถุงน้ำร้อนและยาระงับการปวด แล้วทำไมผู้หญิงต้องปวดประจำเดือน มาอย่างเดียวไม่ได้เหรอ

อธิบายง่ายๆ ว่า ผู้หญิงทุกคนมีมดลูก และมีเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ด้านใน และเยื่อบุจะมีการผลัดออกมาในทุกๆ เดือน ทำให้การมาของประจำเดือนเป็นเรื่องปกติ เลือดที่ออกมาก็ไม่ใช่เลือดเสียแต่อย่างใด แต่เป็นเลือดดีที่มาจากร่างกายและธรรมชาติของผู้หญิงทุกคน โดยระหว่างที่เยื่อบุกำลังผลัดหรือลอกตัวนั้น จะมีสารชื่อว่า โพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) หลั่งออกมา สารดังกล่าวจะทำให้มดลูกบีบตัวเป็นจังหวะ ทำให้สาวๆ ปวดรัดบริเวณกลางท้องน้อย แต่จะปวดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน โดยการปวดประจำเดือนจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่

  1. ปวดแบบทั่วไป คือปวดตามธรรมชาติของร่างกาย มีอาการเกร็งบริเวณท้องน้อยในช่วง 1 – 2 วันแรก แล้วอาการปวดจะค่อยๆ คลี่คลายและหายไปในที่สุด
  2. ปวดแบบมีโรค คือปวดแบบพบโรคต่างๆ ภายในมดลูก เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก หรือปีกมดลูกอักเสบ ซึ่งนั่นจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการปวดท้องมากขึ้นกว่าปกติ

สาวๆ ทุกคนลองตรวจสอบอาการปวดประจำเดือนของตัวเองดู ถ้าปวดนานหรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆ รีบพาไปให้แพทย์ตรวจโดยด่วน เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง